เมนู
หมวดหมู่

[et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” use_background_color_gradient=”on” background_color_gradient_stops=”#1f1a84 15%|#6e1770 93%” background_enable_pattern_style=”on” global_colors_info=”{}”][et_pb_row column_structure=”1_4,3_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_column type=”1_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/เคล็ดลับมีเงินเก็บ1ล้านบาทใน1ปี.jpg” title_text=”เคล็ดลับมีเงินเก็บ1ล้านบาทใน1ปี” align=”center” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][/et_pb_column][et_pb_column type=”3_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/ตอน1-1.png” title_text=”ตอน1-1″ align=”center” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/ตอน1-2.png” title_text=”ตอน1-2″ align=”center” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” use_background_color_gradient=”on” background_color_gradient_stops=”#2b74db 3%|#ffffff 93%” global_colors_info=”{}”][et_pb_row column_structure=”1_4,3_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_column type=”1_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/click.png” title_text=”click” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_enable_color=”off” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m1.png” title_text=”m1″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_enable_color=”off” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m2.png” title_text=”m2″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m3.png” title_text=”m3″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m4.png” title_text=”m4″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m5.png” title_text=”m5″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m6.png” title_text=”m6″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m7.png” title_text=”m7″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/m8.png” title_text=”m8″ url=”https://doandrich.com/8mindset/” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][et_pb_image src=”https://doandrich.com/wp-content/uploads/2023/04/Home-Menu.png” title_text=”Home Menu” url=”https://doandrich.com/millionaireinayear/” align=”center” _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”][/et_pb_image][/et_pb_column][et_pb_column type=”3_4″ _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” global_colors_info=”{}”][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

[ai_playlist id=”1012″]

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด1 เขียนและควบคุมชะตาชีวิตตัวเอง

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่หนึ่ง เศรษฐีเขียนและควบคุมชะตาชีวิต ของตัวเขาเอง

.

นี่คือแนวคิดหลักแรก ที่คุณจำเป็นจะต้อง นำมาตกผลึกและเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

.

เพราะการเขียนและควบคุณชะตาชีวิตตัวเองนั้น มันสำคัญต่อการสร้างผลลัพธ์ ซึ่งก็คือ การมีเงินล้าน, การมีเงินสิบล้าน, การมีเงินร้อยล้าน หรือมากกว่า จนไม่มีที่สิ้นสุด นั่นเองครับ

.

เศรษฐีทุกคนบนโลกนี้ที่ร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขา ล้วนไม่ยอมรับการพึ่งพาโชคชะตา จากสิ่งที่มองไม่เห็น แม้ว่าสิ่งสิ่งนั้น อาจจะมีอยู่จริงก็ตาม

.

พวกเขาไม่ยอมรับว่า ความยากจน เป็นกรรมพันธุ์ ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตกทอดมาจนถึงรุ่นของเขา

.

พวกเขาไม่รอ, ดวง, พวกเขาไม่รอโชคดี, พวกเขาไม่ยอมให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของเขา, ว่าจะต้องยากจน, อดอยาก, ปากแห้ง, มีชีวิตอยู่อย่างไร้คุณค่า,​ เพื่อรอวันตาย, หรืออื่นอื่นอีกมากมาย

.

สิ่งที่เศรษฐีผู้ร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขาทำ คือ เขียนชะตาชีวิตของเขาขึ้นมาเอง ว่าเขา

.

จะอาศัยอยู่บ้านแบบไหน, จะขับรถอะไร, จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของเขาแบบไหน, จะทำ หรือ จะไม่ทำอะไร, จะกินอะไร, จะดื่มอะไร, จะท่องเที่ยวแบบไหน, จะพักผ่อนที่ไหน, และอื่นๆอีกมากมาย

.

เขาจะเขียนหรือออกแบบโชคชะตา หรือออกแบบรูปแบบการใช้ชีวิต, ในแบบที่เขาต้องการอย่างแท้จริง

.

เงิน, สุขภาพ, ทักษะ, ความสัมพันธ์, การแบ่งปัน, จิตวิญญาณ, และการใช้ความสุขนำทางของเขา, ล้วนแล้วแต่ถูกเขียนและออกแบบด้วยตัวเขาเอง, หนึ่งร้อยเปอเซ็น

.

จะไม่มีใครหน้าไหนที่จะสั่งเขาให้ทำอะไร, หรือสั่งไม่ให้ทำอะไร, เพราะเขาไม่ยอมรับคำสั่งจากใครหน้าไหนทั้งสิ้น

.

มีสิ่งหนึ่งที่เศรษฐีทั่วโลกเป็นเหมือนเหมือนกัน คือ พวกเขาจะเข้าถึงยากมาก ถ้าหากเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เพราะเขาไม่ชอบให้ใคร, ไปวุ่นวายในโลกส่วนตัวของเขาสักเท่าไหร่

.

เขาจะให้ใครเจอเขาได้ ก็ต่อเมื่อเขาอนุญาตให้เจอ, เขาจะคุยกับใคร ก็ต่อเมื่อเขาอยากคุยด้วย, ส่วนใครอยากคุยกับเขา เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะอนุญาตหรือไม่

.

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะสงสัยว่า เศรษฐีเหล่านี้ไม่สร้างคอนเน็คชั่นเหรอ

.

คำตอบคือ เขาสร้างในรูปแบบเฉพาะตัวของเขา ซึ่งมีระเบียบ, กฎเกณฑ์, ฯลฯ ตามแบบที่เขากำหนดไว้

.

อย่างที่บอกไว้ว่า เศรษฐีให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนตัวเป็นอย่างมาก ไม่ชอบให้ใครล่วงล้ำไปในพื้นที่ส่วนตัวนั้น นั่นเองครับ

.

ที่เขาทำแบบนั้นได้ก็เพราะว่า เขาเป็นคนออกแบบชีวิตเขาเองให้เป็นแบบนั้น นั่นเองครับ

.

เมื่อคุณฟังมาถึงตรงนี้ ผมขอแนะนำให้คุณ, ตัดสินใจเขียนและออกแบบโชคชะตาของคุณเอง, ตั้งแต่ตอนนี้, ทันที

.

นี่คือการบ้านที่คุณต้องทำทันที, หลังจากฟังคลิปนี้จบ, เพื่อส่งผม คือ เขียนและออกแบบโชคชะตาชีวิตของตัวคุณเอง ว่า..

.

คุณจะอาศัยอยู่บ้านแบบไหน, จะขับรถอะไร, จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของคุณแบบไหน, จะทำ หรือ จะไม่ทำอะไร, จะกินอะไร, จะดื่มอะไร, จะท่องเที่ยวแบบไหน, จะพักผ่อนที่ไหน, และอื่นๆอีกมากมาย

.

เขียนมันออกมาให้หมด และระบุให้ชัดเจนว่า เงิน, สุขภาพ, ทักษะ, ความสัมพันธ์, การแบ่งปัน, จิตวิญญาณ, และการใช้ความสุขนำทางของคุณนั้น, จะเป็นแบบไหน ในหนึ่งปีนับจากนี้, ในห้าปีนับจากนี้, ในสิบปีนับจากนี้

.

สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจก่อนเขียน คือ คุณอย่าสนใจสถานการณ์ทางการเงินของคุณ, ว่าตอนนี้เหลือเงินในบัญชีเท่าไหร่

.

เพราะผมต้องการให้คุณ วาร์ป ตัวเอง, หรือจั๊มตัวเอง ไปเป็นเศรษฐีเงินล้านในอีกหนึ่งปี, ห้าปี, สิบปี, จากนี้ไป และอยากให้ซึมซับ, ความรู้สึกที่ว่า, คุณได้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน, เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

ย้ำอีกครั้งนะครับว่า คุณไม่ต้องสนใจสถานการณ์ ทางการเงินของคุณตอนนี้ คุณสนใจแต่ความฝันของตัวคุณเองว่า หลังจากที่คุณมีเงินหนึ่งล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน, พันล้าน หรือมากกว่า แล้วคุณจะใช้ชีวิตแบบไหน

.

คุณไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะคุณได้รับสิทธิพิเศษจากผมเต็มที่ในการ โค้ชชิ่งตัวคุณ หรือให้คำปรึกษากับคุณ, จนกว่าที่คุณจะบรรลุเป้าหมายการมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า ภายในระยะเวลาหนึ่งปี ต่อจากนี้ไป

.

จงปล่อยวางความกังวลทุกอย่างทิ้งไป แล้วเขียนและออกแบบชีวิตในฝันของคุณตอนนี้เลยครับ

.

คำเตือน, อย่าไปดูคลิปอื่น หรือไปเรียนรู้บทเรียนอื่น จนกว่าคุณจะทำการบ้านนี้ส่งผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้น

.

ผมรออ่าน, ชีวิตใหม่ ซึ่งเป็นชีวิตในฝันของคุณอยู่นะครับ ทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลย จงอย่าเลื่อนสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้

.

ส่งการบ้านผมเสร็จ ถึงไปเรียนรู้หัวข้ออื่นได้, ผมรอตรวจการบ้านคุณอยู่ นะครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด2 มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริงที่จะมีเงินเก็บ 1 ล้าน ใน 1 ปี

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สอง เศรษฐีเงินล้าน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริง ที่จะมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน, เงินพันล้าน, หรือมากกว่า

.

แนวคิดหลักข้อที่สองนี้ อาจจะช่วยปลดล็อก, ความกังวล, ความสับสน, ข้อกังขาต่างต่าง, ว่าทำไมชีวิตที่ผ่านมา, คุณอยากมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า, ทำไมถึงไม่สมหวังสักที

.

คำตอบ ที่ทำให้คุณไม่สมหวังสักทีเกี่ยวกับการมีเงินล้าน, คือ , ความปรารถนาของคุณนั้น, อาจจะยังไม่รุนแรงมากพอ, ที่จะขับเคลื่อนตัวคุณไปสู่เป้าหมาย นั่นเองครับ

.

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะแย้งผมว่า ไม่จริง, ฉันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีเงินล้านอย่างแน่นอน,

.

ผมจะถามคุณด้วยคำถาม, ที่อาจจะกระแทกหัวใจคุณอย่างแรง, ว่า, คุณกล้าแลกความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยลมหายใจที่มีอยู่ของคุณ หรือไม่?

.

คุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง, เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยได้ขนาดไหน

.

คุณเคยทุ่มเทแรงกาย, แรงใจ, แรงจิตวิญญาณ, เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย, ด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณหรือยัง?

.

ถ้าคำตอบคือ, ยัง, ก็นั่นไง, คือสิ่งที่ขวางกั้นคุณอยู่, ระหว่างตัวคุณ, กับ , ความมั่งคั่งร่ำรวย

.

เศรษฐีเงินล้านผู้มั่งคั่ง, ด้วยสมองและสองมือของเขาเอง, ส่วนใหญ่แล้ว, เขาจะแลกความสำเร็จด้วยลมหายใจที่เหลืออยู่ของเขา จนถึงขนาดที่ว่า, ยอมตาย, ถ้าต้องให้ล้มเลิกกลางทาง, นั่นเอง

.

เพื่อให้คุณได้ค้นพบนิยามของ, ความปรารถนาอย่างแรงกล้า, ต่อการบรรลุเป้าหมายที่จะมั่งคั่งร่ำรวย, นี่คือสามสิ่ง, ที่เป็นตัวอย่างของการแสดงออกซึ่งความปรารถนา อย่างแรงกล้า, ที่จะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างแท้จริง, ของเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยจากสมองและสองมือของเขาเอง

.

ข้อหนึ่ง, เขาโฟกัสไปที่, การทำสิ่งเดียว, ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้เขามั่งคั่งร่ำรวย, เท่านั้น,

.

ก่อนจะทำอะไรเขาจะลิสต์รายการออกมาซะก่อนว่า, มีอะไรบ้างที่สำคัญ,

.

จากนั้นก็คัดกรองออก, จนเหลือเพียงแค่, สิ่งเดียวที่สำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริงเท่านั้น, และต้องทำสิ่งนั้นสิ่งเดียวจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

.

ข้อสอง, เขาตัดทุกสิ่ง, ที่จะรบกวนการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยของเขา,

.

ทิ้งทั้งหมด, ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าวลบลบ, รายการทีวีน้ำเน่า, ละครน้ำเน่าที่แย่งผัวแย่งเมียกันไม่เว้นวัน, การเล่นเกมไปวันวัน, การออกไปดื่มเที่ยวกลางคืน, ดึกดึกดื่นดื่น, กว่าจะเข้าบ้านนอน, และอื่นๆอีกมากมายที่จะเป็นการรบกวนทั้งหมด

.

ข้อสาม, เขาเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็น, ต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยตลอดเวลาที่ว่าง,

.

เช่นการอ่านหนังสือพัฒนาทักษะต่างๆ, การเรียนคอส พัฒนาทักษะที่จำเป็นต่างๆ, การฟังหนังสือเสียงที่จะช่วยพัฒนาทักษะบางอย่างให้กับเขา, ในขณะที่เขากำลังขับรถ, หรือ ทำงานบางอย่างที่ไม่ต้องใช้สมาธิมากนัก, และอื่นอื่นอีกมากมาย, ที่เป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็น, ต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย,

.

และสุดท้ายคือ, เขาจะหาโค้ช, หรือครูต้นแบบ, มาเป็นโมเดลหลักในการพัฒนาทักษะที่สำคัญ, ต่อการบรรลุเป้าหมาย, หรือสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง

.

ย้อนกลับมาที่คุณอีกครั้งครับ, คุณเคยได้ทำตามสามข้อ, ที่เพิ่งฟังมาหรือยังครับ, ถ้าคุณทำตามทั้งสามข้อนี้, ผมเชื่อว่าคุณสามารถมีเงินล้านได้อย่างแน่นอน, เพราะนั่นเป็นการแสดงออกซึ่งความปรารถนา อย่างแรงกล้าที่แท้จริง, ต่อการบรรลุเป้าหมาย, นั่นเองครับ

.

แต่ถ้าหากว่าที่ผ่านมา, คุณ, ไม่ได้ทำตามสามข้อดังกล่าว, ก็ไม่ต้องรู้สึกเสียใจย้อนหลังเลยครับ, เพราะไม่มีใครย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ได้หรอกครับ, สิ่งที่คุณต้องทำคือ, เปลี่ยนแปลงตัวคุณเองตอนนี้, เพื่อวันข้างหน้าที่สดใสกว่า, ย่อมจะดีกว่าไปจมปลักอยู่กับอดีต

.

และก็อีกเช่นเคย, เพื่อพิสูจน์ว่า, ต่อจากนี้ไป, คุณจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมั่งคั่งร่ำรวย, ผมก็มีการบ้านให้คุณต้องทำส่งผม, คือ, เขียนสามอย่างในแบบที่เศรษฐีทำออกมา, ว่า

.

ข้อหนึ่ง, คุณจะโฟกัสไปที่สิ่งเดียว, ที่สำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของคุณ, และสิ่งเดียวนั้น, มันคืออะไร, ลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำออกมาว่ามีอะไรบ้าง, และคัดกรองให้เหลือเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

.

ข้อสอง, คุณจะตัดอะไรบ้างออกจากชีวิตคุณ, ซึ่งคุณคิดว่ามันคืออุปสรรคที่ขวางกั้นคุณกับ, ความมั่งคั่งร่ำรวย, มีเงินล้าน, มีเงินสิบล้าน, มีเงินร้อยล้าน หรือมากกว่า, เขียนระบุออกมาให้หมดและไม่ต้องกั๊กไว้

.

ข้อสาม, คุณจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะอะไรบ้าง, ซึ่งมันจำเป็นต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยของคุณ, ถ้าเป็นหนังสือ, จะเป็นหนังสืออะไร, ถ้าเป็นหนังสือเสียง, จะเป็นหนังสือเสียงเรื่องไหน,เกี่ยวกับอะไร, ถ้าเป็นคอส ออนไลน์, จะเป็นคอส ออนไลน์เรื่องไหน, เกี่ยวกับอะไร? , และอื่นๆที่จำเป็นต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยของคุณ

.

ย้ำอีกครั้งว่า, คุณต้องทำการบ้านส่งผมให้เสร็จ, ก่อนที่จะไปทำสิ่งอื่น, จงอย่าเลื่อนสิ่งสำคัญที่ต้องทำตอนนี้อย่างเร่งด่วน, เพราะความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้ครับ

.

ผมรอตรวจการบ้านจากคุณอยู่นะครับ, ไม่ใช่เพื่อตัวผม, แต่มันเป็นไปเพื่อตัวคุณเอง, ซึ่งเป็นการพิสูจน์, ว่าคุณมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า, ต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย, มากแค่ไหน, นั่นเองครับ,

.

วางทุกอย่างลง, แล้วทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลยครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด3 มีผู้นำทาง(Mentor) ที่จะนำพาไปบรรลุเป้าหมาย และก้าวข้ามทุกๆปัญหา/อุปสรรค

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สาม, เศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยทุกคน, ล้วนจำเป็นต้องมีผู้นำทาง, โค้ช, ครู หรือ เมนทอร์, ที่จะนำพาพวกเขาไปบรรลุเป้าหมาย, และก้าวข้ามทุกๆปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ

.

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สามนี้, สำคัญมากมากต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย, อย่างถูกที่, ถูกทาง, ถูกต้อง, ลัด, สั้น, ตรงที่สุด

.

คุณลองวิเคราะห์ดูดีๆ, จะพบว่า, ระหว่างการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง, กับการมีผู้นำทางที่มีประสบการณ์แห่งความสำเร็จมาแล้ว, แบบไหนดีกว่ากัน? , แบบไหนย่นระยะเวลาแห่งความสำเร็จได้เร็วกว่า

.

ลองดูตัวอย่างแฟนไชส์ ชื่อดังต่างๆ, จะเห็นว่า, พวกเขาเหล่านั้น, ได้ค้นพบสูตรลับแห่งความสำเร็จ, เป็นที่เรียบร้อยแล้ว, ซึ่งไม่ว่าใครที่ทำตามสูตรลับแห่งความสำเร็จนั้นแบบร้อยเปอเซ็น, ย่อมจะมีโอการประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

.

เพราะในสูตรลับแห่งความสำเร็จนั้น, มันระบุไว้อย่างชัดเจนว่า, แบบไหนสำเร็จ, แบบไหนล้มเหลว, เมื่อเจออุปสรรค จะต้องก้าวข้ามไปได้อย่างไร, และอื่นๆอีกมากมาย

.

เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีสูตรลับแห่งความสำเร็จ, ที่ต้องลองผิดลองถูก, ซ้ำแล้วซ้ำเล่า, กว่าจะเจอหนทางที่ถูกต้อง, หรือได้ผล, อาจจะใช้เวลายาวนาน, บางคนเสียเวลาทั้งชีวิต, ก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้

.

การมีผู้นำทาง, มีโค้ช, มีครู, หรือมีเมนทอร์, ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ, มีประสบการณ์, และประสบความสำเร็จมาแล้ว, มาช่วยเป็นโค้ช, เป็นครู, หรือเป็นผู้นำทาง, ย่อมดีกว่าการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

.

แน่นอนว่า, นอกจากโค้ช,ครู,หรือเมนทอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ, จะนำพาคุณไปถูกทิศทางแล้ว, ยังเป็นการช่วยย่นระยะเวลาแห่งความสำเร็จให้กับคุณ, อีกด้วย

.

ถ้าลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง, อาจต้องใช้เวลาสิบปีถึงจะสำเร็จ, ในขณะที่การมีโค้ช, ครู, หรือเมนทอร์ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยนำทาง, อาจจะย่นระยะเวลาแห่งความสำเร็จ, เหลือเพียงแค่, หนึ่งปีเท่านั้น, คำถามคือ แบบไหนดีกว่าหล่ะ

.

และนี่คือเคล็ดลับในการเลือกผู้นำทาง, โค้ช, ครู, หรือเมนทอร์, ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

.

ข้อหนึ่ง, มีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่คุณหลงใหล, ซึ่งเรื่องนี้สำคัญต่อความสำเร็จมากๆเลยครับ, เพราะเรื่องที่คุณหลงใหล, คุณจะทำอย่างมีความสุข,และทำออกมาดี, เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยชี้นำแนวทางที่ถูกต้อง, ยิ่งจะส่งเสริมให้คุณสำเร็จอย่างรวดเร็ว,

.

สิ่งแรกที่คุณจะได้รับแน่นอน, ก็คือความสุขใจที่ได้ทำสิ่งที่หลงใหล, นั่นเองครับ, และแน่นอนว่า, ผู้นำทางที่เชี่ยวชาญ, จะช่วยคุณให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว, และทรงพลังมากๆ

.

ข้อสอง, มีจิตวิญญาณแห่งการให้, ซึ่งคุณจะสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองว่า, ผู้นำทางท่านนี้, มีจิตวิญญาณแห่งการให้หรือไม่, ดูได้จาก, ความเต็มใจในการถ่ายทอดความรู้, การเอาใจใส่คุณกับผลลัพธ์ของคุณ, การทุ่มเทเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย, การมีความสุขที่เห็นผู้รับคำปรึกษาประสบความสำเร็จ, และอื่นๆอีกมากมาย, ซึ่งคุณจะสัมผัสได้เอง

.

ข้อสาม, คุณมีความสุขและมีความมั่นใจ, เมื่ออยู่ใกล้ผู้นำทางท่านนี้, หรือแม้แต่การพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์, หรือวิดีโอคอล, คุณก็รู้สึกผ่อนคลาย, และมีความมั่นใจในตัวเองว่า, ผู้นำทางท่านนี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน, เพราะผู้นำทางที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับสูง, ท่านก็สัมผัสคุณได้เช่นกันว่า, คุณเหมาะที่จะให้ความช่วยเหลือ, หรือช่วยนำทางให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่, เช่นกัน

.

ทั้งสามคุณสมบัติที่กล่าวมานั้น, ถ้าคุณเจอ, จงรีบตัดสินใจขอให้ท่านมาเป็นผู้นำทางให้กับคุณโดยด่วน, เพราะเป็นการยากมากๆ, ที่จะเจอคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนั้น, แล้วคุณจะร้องอ๋อทันทีว่า, ทำไมไม่เจอผู้นำทางให้เร็วกว่านี้

.

นอกจากผู้นำทาง, โค้ช, ครู หรือ เมนทอร์, ที่เป็นตัวบุคคล, หรือเรียนรู้แบบตัวต่อตัวแล้ว, ยังมีผู้นำทางอีกชนิดหนึ่งที่คุณอาจจะเข้าถึงได้ง่ายๆ, นั่นก็คือ, ผู้นำทางประเภท, หนังสือ, หนังสือเสียง, คอส ออนไลน์ ฯลฯ , ที่ผลิตออกมาโดยผู้นำทางที่มีความเชี่ยวชาญคนนั้นๆ, ก็ถือว่าเป็นผู้นำทางได้เช่นเดียวกัน,

.

เพราะบางครั้ง, ผู้นำทาง, โค้ช, ครู, หรือเมนทอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างเฉพาะเจาะจง, อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงระดับหลักแสน, ถึงหลักล้านต่อปี กันเลยทีเดียว,

.

การเริ่มต้นด้วยการ, อ่านหนังสือของท่าน, ฟังหนังสือเสียงของท่าน, ลงเรียนคอส ออนไลน์ของท่าน, ฯลฯ , ที่ราคาไม่แพงมากนัก, ก็ถือได้ว่า, เป็นผู้นำทางคุณ ได้เช่นกัน, ในราคาที่คุณจ่ายไหว, เมื่อคุณเริ่มมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและมั่นคง, ก็ค่อยไปเรียนรู้แบบตัวต่อตัวกับท่าน, ก็ถือว่ายังไม่สายเกินไป

.

ก็อีกเช่นเคยครับ,​ ที่ผมจะต้องมอบ การบ้านให้คุณหนึ่งชิ้น, ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำเพื่อคุณล้วนๆ, คือ

.

เขียนคุณสมบัติของผู้นำทาง, โค้ช, ครู, หรือเมนทอร์, ที่คุณอยากฝากตัวกับท่านออกมาให้ชัดเจนว่า, ผู้นำทางที่ท่านปรารถนา, มีคุณลักษณะอะไรบ้าง, มีความรู้ความเชี่ยวชาญแบบไหน, และคาดหวังเรื่องไหนจากผู้นำทางท่านนั้น, ฯลฯ อีกมากมาย

.

และที่สำคัญ, คุณไม่ต้องกังวลว่า,​ จะต้องเอาใจผม, ด้วยการเขียนคุณสมบัติผู้นำทางแบบผม,เพื่อเอาใจ, ผมก็จะบอกกับคุณนะตรงนี้ว่า, คุณมีอิสระ ที่จะเลือกผู้นำทางได้อย่างเต็มที่เลยครับ,​ เอาที่ตรงกับความหลงใหลของคุณ, ก็ถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ

.

ย้ำอีกครั้งว่า, การบ้านที่ผมให้ทำ, เป็นไปเพื่อช่วยตัวคุณเองล้วนๆ, เพราะฉะนั้น, จงตั้งใจทำการบ้านส่งผม, เพื่อตัวคุณเองจะบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว, นั่นเองครับ

.

วางทุกอย่างลง, แล้วเริ่มทำการบ้านประจำบทเรียนนี้, ส่งผมทันทีครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด4 มีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สี่ (เศรษฐี, มีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย)

.

แนวคิดหลักข้อที่สี่นี้, สำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของคุณเป็นอย่างยิ่งเลยครับ, เพราะ การจะมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า, ภายในระยะเวลาหนึ่งปีได้นั้น, คุณต้องรู้ว่าจะเดินไปบนเส้นทางไหน, ถึงจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง

.

มีคำกล่าวที่สำคัญมากๆหนึ่งคำ, ที่ผมอยากให้คุณตระหนักและจดจำไว้, คือ , ทิศทาง สำคัญกว่า ความเร็ว, นั่นเองครับ

.

ทำไมทิศทางถึงสำคัญกว่าความเร็ว, คำตอบก็คือ, ถึงแม้คุณ จะพุ่งไปด้วยความเร็วสูงแค่ไหน, แต่ถ้ามันไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับเป้าหมาย, คุณก็ไปไม่ถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน นั่นเองครับ

.

การมีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย, ก็คือ การรู้ว่า, ต้องพุ่งไปในทิศทางไหนถึงจะถูกทาง, ซึ่งถึงแม้จะเคลื่อนที่ ช้าหรือเร็ว, ยังไงก็ไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างแน่นอน

.

เมื่อรู้ทิศทางที่ถูกต้องแล้ว, ลำดับถัดไปก็คือ รู้ว่าต้องเดินทางด้วย พาหะนะแบบไหน, ถึงจะไปถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว,

.

ยกตัวอย่างเช่น, การเดินทางด้วย การเดิน, การวิ่ง, การปั่นจักรยาน, การขับมอเตอร์ไซค์, การนั่งรถยนต์โดยสาร, การขับรถยนต์ส่วนตัว, การนั่งเครื่องบิน… ล้วนแล้วแต่ใช้ระยะเวลาไปถึงจุดหมายปลายทางแตกต่างกัน

.

ซึ่งเมื่อนำมาเทียบเคียงกับการมีเงินเก็บ, หนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าในหนึ่งปี, แผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมายนั้น, มีอยู่สี่กระบวนการด้วยกัน, คือ

.

ขั้นที่หนึ่ง, คุณต้องฉลาดหาเงิน, ขั้นที่สอง, คุณต้องฉลาดรักษาเงิน, ขั้นที่สาม, คุณต้องฉลาดใช้เงิน, และขั้นที่สี่, คุณต้องฉลาดทำให้เงินงอกเงย, เพิ่มพูน ทวีคูณอย่างยั่งยืน

.

ทั้งสี่ขั้นตอนนี้เอง, เป็นแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย, การมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าภายในหนึ่งปีของคุณ, นั่นเองครับ

.

ซึ่งในคอส ออนไลน์นี้, ในตอนที่สอง, จะพาคุณไปเจาะลึกความฉลาดหาเงิน, ซึ่งมีมากถึงแปดรูปแบบหลักๆด้วยกัน, เมื่อคุณรู้จักรูปแบบการหาเงินทั้งแปดรูปแบบแล้ว, จากนั้นก็จะเป็นการลงมือทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน, ซึ่งบรรจุอยู่ในตอนที่สาม, นั่นเองครับ

.

นอกจากจะฉลาดหาเงินแล้ว, ในตอนที่สามยังได้บอกวิธีการต่อยอดรายได้ไม่รู้จบ, ซึ่งมันก็คือการทำให้เงินงอกเงยอย่างยั่งยืน, นั่นเองครับ

.

สรุปแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย, การมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าในหนึ่งปีของคุณ, คือ , คุณต้องเริ่มต้นที่, การฉลาดหาเงิน, ฉลาดรักษาเงิน, ฉลาดใช้เงิน, และ จบด้วย การฉลาดทำให้เงินงอกเงย นั่นเองครับ

.

ความฉลาดด้านการเงินทั้งสี่ข้อนี้เอง, เป็นทิศทางที่ถูกต้อง,​ ที่จะช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายปลายทาง, ซึ่งก็คือการมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าในหนึ่งปีได้, และการเลือกพาหะนะ, ก็คือ, การเลือกหนึ่งในแปดรูปแบบการหาเงินด้วยการทำธุรกิจต้นทุนต่ำ, ซึ่งบรรจุอยู่ในตอนที่สอง นั่นเองครับ

.

พาหะนะทั้งแปดรูปแบบในตอนที่สองนั้น,​ มีความช้า,เร็ว,แตกต่างกัน, ซึ่งมันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่า, คุณหลงใหลในรูปแบบไหนมากกว่ากัน, และมีความเชี่ยวชาญในรูปแบบไหนมากกว่า, ซึ่งจากประสบการณ์ของผม, ขอแนะนำให้เริ่มที่รูปแบบธุรกิจต้นทุนต่ำ, ที่คุณหลงใหลเป็นลำดับแรก,

.

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้, คุณอาจจะเริ่มสงสัยว่า, ธุรกิจต้นทุนต่ำรูปแบบไหนกันหล่ะ, ที่เป็นสิ่งที่คุณหลงใหล

.

ในเรื่องนี้, คุณไม่ต้องเป็นกังวลครับ, เพราะคุณได้รับสิทธิ์ในการ, ได้รับการโค้ชชิ่ง,หรือการให้คำปรึกษาจากผมอยู่แล้ว, ผมมีวิธีการปลุกศักยภาพของคุณออกมาสร้างรายได้อย่างแน่นอนครับ

.

ผมขอสรุปอีกครั้งว่า, แผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย, คือ , ความฉลาดด้านการเงินสี่ข้อ, ประกอบไปด้วย, ฉลาดหาเงิน, ฉลาดรักษาเงิน, ฉลาดใช้เงิน, และ ฉลาดทำให้เงินงอกเงย นั่นเองครับ

.

ก็อีกเช่นเคย, ท้ายบทเรียนนี้, ผมก็มีการบ้านให้คุณต้องทำส่งผมเช่นเคย, ซึ่งก็คือ, เขียนบอกเล่าความฉลาดด้านการเงินทั้งสี่ข้อ, ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมาของคุณ, ว่า, คุณหาเงินอย่างไร, คุณรักษาเงินอย่างไร, คุณใช้เงินอย่างไร, และคุณทำให้เงินงอกเงยหรือไม่ อย่างไร?

.

เมื่อคุณลงมือเขียนการบ้านบทนี้ส่งผม, คุณจะเริ่มรู้จุดอ่อน หรือ จุดแข็ง ของตัวคุณเองว่า, มีความฉลาดด้านการเงินทั้งสี่ข้อ อยู่ในระดับไหน

.

จากนั้น เวลาที่ได้รับการโค้ชชิ่งจากผม, คุณจะเริ่มเข้าใจทิศทางที่ถูกต้อง, และรู้จักพาหะนะ ที่จะนำพาคุณไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว, เผลอๆ อาจจะใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งปี, คุณก็สามารถมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าได้, นั่นเองครับ

.

วางทุกอย่างลงนะบัดนี้, ตั้งใจเขียนการบ้านส่งผมตอนนี้ทันที, อย่าเลื่อนสิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้, เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้นะครับ
.

ผมรอตรวจการบ้านประจำบทเรียนนี้อยู่นะครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด5 มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆมิติ

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่ห้า, เศรษฐีมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆมิติ

.

แนวคิดหลักข้อนี้, จะช่วยให้คุณรู้ว่า, คุณจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องไหนบ้าง, ถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการ, มีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าภายในระยะเวลาหนึ่งปี

.

องค์ประกอบที่สำคัญของความสำเร็จ, มีอยู่สองอย่างด้วยกัน, ซึ่งจะแยกออกจากกันไม่ได้, คือ, หนึ่ง,โอกาส, และสอง, ความพร้อม

.

ถูกต้องแล้วครับ, เพื่อการบรรลุความสำเร็จใดๆบนโลกนี้, คุณจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญสองอย่างนี้เสมอ, ซึ่งก็คือ, คุณต้องมีทั้งโอกาส, และคุณก็ต้องมีความพร้อมด้วย
.

คุณลองย้อนกลับดูตัวเองว่า, คุณเคยพลาดโอกาสดีๆหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามา, เพียงเพราะว่า, คุณไม่มีความพร้อมหรือไม่?

.

หรือว่า, คุณมีความพร้อมในหลายๆอย่าง, แต่คุณกลับ, ไม่ได้รับโอกาสให้ลงมือทำ, หรือไม่?

.

นั่นแหละครับที่ผมบอกว่า, องค์ประกอบของความสำเร็จ, จะต้องมีสองอย่างพร้อมกันเสมอ, คือ , ต้องมีโอกาสและต้องมีความพร้อม, หรือต้องมีความพร้อมและมีโอกาสได้ลงมือทำ, นั่นเองครับ

.

กุญแจที่สำคัญของแนวคิดหลักของเศรษฐีข้อนี้, คือ, เศรษฐีเตรียมความพร้อมเสมอ,และสร้างโอกาสขึ้นมาเอง, โดยไม่ต้องรีรอขอโอกาสจากใคร

.

ด้วยการทำแบบนี้นี่เอง, ที่ทำให้เศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขา, สามารถสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอย่างยั่งยืนได้

.

เพราะเศรษฐีเงินล้าน, เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาเองก่อนเสมอ, ซึ่งเขาเริ่มต้นด้วย, การตั้งคำถามที่ถูกต้องหนึ่งคำถาม, คือ, ฉันต้องมีทักษะอะไร, ฉันถึงจะบรรลุเป้าหมายนี้?

.

นี่เป็นคำถามที่ทรงพลังมากๆเลยนะครับ, ผมขอแนะนำให้คุณ, ท่องจำคำถามนี้ให้ขึ้นใจ, และถามตัวคุณเองทุกๆวันว่า, ฉันต้องมีทักษะอะไรฉันถึงจะบรรลุเป้าหมายนี้?

.

เมื่อคุณตั้งคำถามได้ถูกต้อง, คุณก็จะพบกับ, ทักษะที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ

.

ยกตัวอย่างเช่น, ถ้าคุณมีเป้าหมายคือ, การเป็นนักดนตรีประจำโรงแรมหรูๆ, ซึ่งเล่นเพลงในแนวแจ๊ส, เล่นเพลงในแนวคลาสสิค, ซึ่งนักดนตรีจะต้องมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการเล่นเพลงตามแนวดนตรีดังกล่าว, คุณก็จะรู้ว่า, คุณต้องเตรียมความพร้อมในการมีความเชี่ยวชาญในแนวเพลงแจ๊ส, หรือเชี่ยวชาญในแนวเพลงคลาสสิคนั่นเองครับ

.

เมื่อคุณพัฒนาตัวเองจนมีทักษะหรือความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น, คุณก็มีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นนักดนตรีประจำโรงแรมหรูๆได้อย่างแน่นอน, ซึ่งรายได้ของคุณก็ย่อมจะสูงกว่าการเป็นนักดนตรีตามร้านอาหารทั่วๆไป, เช่น, ร้านอาหารทั่วไปอาจจะจ้างชั่วโมงละห้าร้อยบาท, แต่โรงแรมหรูๆอาจจะจ้างชั่วโมงละหนึ่งพันห้าร้อยบาท, ถึงสองพันบาท, ซึ่งสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป สามเท่า ถึง สี่เท่า, นั่นเองครับ

.

อีกตัวอย่างหนึ่ง, ถ้าคุณมีเป้าหมายในการ, รับงานเขียนเว็บไซต์ให้กับองค์กรใหญ่ๆ, ซึ่งต้องใช้ทักษะขั้นสูงในการเขียนเว็บไซต์, เมื่อคุณมีความพร้อมในทักษะการเขียนเว็บไซต์ขั้นสูงนี้แล้ว, คุณก็มีโอกาสได้ค่าจ้างที่แพงกว่าการเขียนเว็บไซต์ทั่วๆไป, เช่น, เขียนเว็บไซต์ทั่วไปอาจจะราคาประมาณสามพันบาท, แต่การเขียนเว็บไซต์ให้องค์กรใหญ่ๆ, อาจจะได้ราคาเริ่มต้นที่, สามหมื่นบาทขึ้นไป นั่นเองครับ

.

ทั้งสองตัวอย่างที่ยกมานี้, มันคือ การเตรียมความพร้อม, สำหรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะเข้ามานั่นเองครับ, เมื่อคุณมีความพร้อม, คุณก็ย่อมได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ นั่นเอง

.

สมมุด ว่า คุณรับงานเขียนเว็บไซต์ให้องค์กรขนาดใหญ่, ในราคาค่าจ้างสามหมื่นบาทต่อองค์กร, เมื่อคุณรับงานสิบองค์กร, คุณก็มีรายได้สามแสนบาท, และถ้าคุณรับงานหนึ่งร้อยองค์กร, คุณก็มีรายได้สามล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว, ซึ่งถือว่า, บรรลุเป้าหมายการมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าในหนึ่งปีนั่นเองครับ

.

ที่เหนือไปกว่านั้น, ถ้าคุณมีคอนเนคชั่นที่ดี กับองค์กรใหญ่ๆ ที่ต้องการมีเว็บไซต์องค์กร อยู่แล้ว,  คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องเขียนเว็บไซต์ด้วยตัวคุณเอง, คุณแค่มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยรับงานต่อ, ผ่านการรับงานจากคุณ, คุณก็สามารถสร้างรายได้ไม่รู้จบกันเลยทีเดียว

.

ที่ยกตัวอย่างมานี้, มันคือหลักการของการเตรียมความพร้อม, สำหรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะเข้ามา นั่นเองครับ

.

เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่, จึงให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา, เมื่อมีโอกาสผ่านเข้ามา, เขาก็พร้อมเสมอในการรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้นทันที, ในขณะที่คนที่ไม่มีความพร้อม, ก็ย่อมที่จะไม่กล้าเปิดรับโอกาสใดๆเลย, เพราะตัวเองไม่มีความพร้อม นั่นเองครับ

.

นี่คือสามสิ่งที่เศรษฐีเงินล้านผู้มั่งคั่งร่ำรวย, เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสดีๆเสมอ

.

สิ่งที่หนึ่ง, เศรษฐีจะเตรียมความพร้อมด้าน, ความรู้ขั้นสูง,​ เป็นลำดับแรก, เพราะความรู้ขั้นสูงทรงพลังมากๆต่อการบรรลุความสำเร็จ, คนจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ไม่ได้, ถ้าขาดซึ่งความรู้ ขั้นสูง เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ

.

ความรู้ขั้นสูง, คือการ, รู้ลึก, รู้กว้าง, รู้จริง, และบรรลุในเรื่องนั้นๆแล้ว, ถ้าคุณมีความรู้ขั้นสูงแบบนี้ คุณก็มีโอกาสที่จะสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้

.

สิ่งที่สอง, เศรษฐีจะเตรียมความพร้อมด้าน, ทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูง, เพราะทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงในเรื่องใดๆนั้น, สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับทักษะความเชี่ยวชาญนั้นได้เสมอ

.

เช่นถ้าคุณมีทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงในการขาย, คุณก็จะสามารถปิดการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าหรือราคาสูงๆได้ นั่นเองครับ

.

คุณลองเดินเข้าไปที่โชว์รูม, รถเบนซ์, ดูนะครับ,​ คุณจะเจอกับเชลล์, หรือ นักขายที่มีทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงในการขาย, ซึ่งขายแบบไม่ขาย, แต่เขาก็ปิดการขายได้ นั่นเอง

.

ในขณะที่, ถ้าคุณลองไปโชว์รูมรถยนต์ตามท้องตลาดทั่วไป, คุณก็จะเจอกับเชลล์ หรือ นักขายที่มีทักษะการขายที่แตกต่างกันคนละขั้น กันเลยทีเดียว

.

เพราะฉะนั้น, ทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูง, มีความสำคัญต่อการสร้างเงินล้านเป็นอย่างมาก, และเป็นสิ่งที่คุณต้องเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ไว้เสมอ, เพราะมันจะเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้อย่างแน่นอน

.

สิ่งที่สาม, เศรษฐีเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณแห่งการให้ตลอดเวลา, ซึ่งการให้ในที่นี้,​ เป็นการให้ประโยชน์และคุณค่าที่สูงกว่าราคาที่ลูกค้าต้องจ่าย, นั่นเองครับ

.

การเตรียมความพร้อม ด้านจิตวิญญาณแห่งการให้ นี้, มีความสำคัญ ต่อการมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า ภายในหนึ่งปีของคุณเป็นอย่างยิ่ง

.

ในเนื้อหาลึกๆ, ผมจะพาคุณตกผลึกเรื่องนี้อีกทีครับ

.

สรุปสามสิ่งที่เศรษฐีเงินล้านเตรียมความพร้อมเสมอ, ประกอบไปด้วย, เตรียมพร้อมด้านความรู้ขั้นสูง, เตรียมพร้อมด้านทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูง, และเตรียมพร้อมด้านจิตวิญญาณแห่งการให้ตลอดเวลา

.

ความพร้อมทั้งสามด้านนี้, จะพาคุณให้บรรลุเป้าหมาย, การมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า ภายในหนึ่งปีได้อย่างแน่นอนครับ

.

ก็อีกเช่นเคยครับ, สำหรับการบ้านประจำบทเรียนนี้, คือ , ให้คุณเขียนระบุออกมาให้ชัดเจนว่า, คุณจะเตรียมความพร้อมด้านความรู้ขั้นสูงในเรื่องไหนบ้าง, คุณจะเตรียมความพร้อมด้านทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงในเรื่องไหนบ้าง, และคุณจะเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณแห่งการให้, ในเรื่องไหนบ้าง

.

ประโยชน์ของการบ้านประจำบทเรียนนี้, จะช่วยให้คุณ, มีความพร้อมสำหรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะผ่านเข้ามาหาคุณในเร็วๆนี้, ซึ่งคุณได้เรียนรู้ไปแล้วว่า, องค์ประกอบของความสำเร็จ, จะต้องประกอบไปด้วย, การมีความพร้อมและการได้รับโอกาสให้ลงมือทำ, นั่นเองครับ

.

วางทุกอย่างลง, แล้วทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลยครับ, จงอย่าเลื่อนสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ตอนนี้ทันที, เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้ครับ

.

ตั้งใจทำการบ้านประจำหัวข้อนี้,​ ส่งผมตอนนี้เลยครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด6 มีความเชื่อมั่นในตัวเอง

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่หก, เศรษฐีมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาสามารถมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่าได้อย่างแน่นอน

.

แนวคิดหลักข้อนี้, จะปลุกศักยภาพของตัวคุณออกมา ให้สร้างผลลัพธ์อย่างยิ่งใหญ่, เพราะคนที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้, จำเป็นที่จะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองขั้นสุด

.

เพื่อความเข้าใจแนวคิดหลักข้อนี้, และนำไปใช้ได้อย่างทรงพลังที่สุด, คุณต้องเข้าใจความเชื่ออย่างลึกซึ้งว่า, (ความเชื่อ, คือความจริง, ของคนๆนั้น) นั่นเองครับ

.

ความเชื่อของคุณ,​ ก็คือความจริงของคุณ, ความเชื่อของคนอื่น, ก็คือความจริงของคนอื่น, เช่นกัน

.

เพราะฉะนั้น, ความเชื่อ, เป็นเรื่องของปัจเจกชน, หรือ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้ว่า, ความเชื่อ เป็นเรื่องส่วนบุคคลของคนๆนั้น นั่นเองครับ

.

เมื่อความเชื่อคือความจริงของคนๆนั้น, มันก็เท่ากับว่า, คุณเชื่อสิ่งใด คุณก็ย่อมได้ผลลัพธ์ตามความเชื่อนั้น, เช่น , ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำได้, คุณก็จะทำได้, แต่ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำไม่ได้, คุณก็จะทำไม่ได้, ความเชื่อมีหลักการง่ายๆแบบนี้เองครับ

.

ถ้าคุณเชื่อว่าคุณสามารถมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทในหนึ่งปีได้, คุณก็จะได้ผลลัพธ์ตามนั้น, เพราะความเชื่อคือความจริงของคนๆนั้นนั่นเองครับ

.

แต่ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณไม่สามารถมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทในหนึ่งปีได้, คุณก็จะได้ผลลัพธ์ตามนั้นเช่นกัน

.

คำถามคือ, ถ้าคุณรู้ความลับของความเชื่อว่าเป็นแบบนั้น, คุณจะเลือกเชื่อแบบไหนหล่ะ?, ระหว่างเชื่อว่าคุณทำได้, กับเชื่อว่าคุณทำไม่ได้?

.

เศรษฐีเงินล้าน ผู้มั่งคั่งร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขาเอง, มีเคล็ดลับในการใช้พลังของความเชื่อ,​ มาสร้างความสำเร็จให้กับเขาได้ทุกๆอย่าง, ไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็สำเร็จทุกๆอย่าง, เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเขาเองว่าเขาทำได้, และที่สำคัญ, เขาไม่ยอมด้อยค่าตัวเขาเอง, ว่าเขาทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด

.

เขาเลือกที่จะ, แลกความสำเร็จด้วยชีวิตและลมหายใจที่เหลืออยู่ของเขา, เขายอมตายดีกว่าที่จะล้มเลิกกลางทาง

.

ผมอยากให้คุณท่องประโยคนี้ซ้ำๆ, ฉันจะแลกความสำเร็จด้วยชีวิตและลมหายใจที่เหลืออยู่ของฉัน, และฉันยอมตายดีกว่าที่จะล้มเลิกกลางทาง

.

ลองพูดประโยคนี้ซ้ำๆทุกครั้งที่คุณคิดจะล้มเลิก, หรือท้อแท้สิ้นหวัง, ลองพูดซ้ำอีกครั้งว่า

.

ฉันจะแลกความสำเร็จด้วยชีวิตและลมหายใจที่เหลืออยู่ของฉัน, และฉันยอมตายดีกว่าที่จะล้มเลิกกลางทาง

.

เป็นไงครับ คุณเริ่มรู้สึกถึงพลังของความเชื่อ, ที่พุ่งพล่านอยู่ในตัวคุณหรือยัง, เมื่อคุณพูดประโยคนี้ซ้ำๆ, มันจะกลายเป็นความจริงสำหรับคุณ ครับ

.

คุณจะทำอะไรก็สำเร็จ, คุณอยากมีเงินคุณก็จะมีเงิน, คุณอยากมีสุขภาพดีคุณก็จะมีสุขภาพดี, คุณอยากมีทักษะที่จำเป็นต่อการสร้างเงินล้าน, คุณก็จะมีทักษะที่จำเป็นต่อการสร้างเงินล้าน

.

นี่คือความทรงพลังของความเชื่อ นั่นเองครับ, มันสามารถแยกน้ำทะเล, หรือยกภูเขาทั้งลูกได้เลยทีเดียว, ถ้าคุณมีพลังความเชื่อที่มากพอ, ไม่ว่าจะทำอะไรคุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้, แค่เชื่อมั่นว่าคุณทำได้

.

สามเคล็ดลับของเศรษฐีเงินล้าน,ที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขาเอง , ซึ่งจะช่วยคุณในการแทนที่ความสงสัยว่าคุณ จะทำได้หรือไม่, ผมแนะนำให้คุณทำแบบนี้ครับ, คือ

.

เคล็ดลับข้อหนึ่ง, หาตัวอย่างหรือหาหลักฐาน, คนที่ทำสำเร็จในเรื่องนั้นๆมาเป็นแรงบันดาลใจ, เช่นถ้าคุณไม่ได้เกิดในตระกูลเศรษฐี, แต่อยากเป็นเศรษฐีเงินล้านกับเขาบ้าง, คุณก็ค้นคว้าหาตัวอย่างคนที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของเขาเอง, ซึ่งมีตัวอย่างอยู่มากมาย, คุณลองศึกษา,วิเคราะห์,สรุปความรู้ว่า, เขาทำอะไรเขาถึงสามารถมั่งคั่งร่ำรวยได้ด้วยสมองและสองมือของเขา, แล้วคุณก็ทำตามวิธีการนั้น, หรือทำตัวเสมือนว่าคุณมั่งคั่งร่ำรวยแบบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว, ในเรื่องนี้เดี๋ยวผมจะอธิบายอีกทีในหัวข้อแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่แปด นะครับ

.

เคล็ดลับข้อที่สอง, ลิสต์รายการสิ่งที่คุณเคยทำสำเร็จตั้งแต่เด็ก,จนถึงอายุปัจจุบัน, ว่าคุณเคยสำเร็จในเรื่องไหนบ้าง, แม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ ก็เขียนลิสต์รายการออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้, แล้วคุณจะพบว่า,คุณเองก็เคยประสบความสำเร็จ กับเขาเหมือนกัน, เมื่อคุณพบตัวเองว่าเคยสำเร็จ, คุณก็แค่ยกระดับความสำเร็จให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม, ตัวอย่างเช่น, ผมสามารถหาเงินใช้เองตั้งแต่อายุสิบขวบ, ผมก็ทวีคูณความสำเร็จให้ใหญ่ขึ้น, จนสามารถเก็บเงินซื้อมอเตอร์ไซค์ได้เองเมื่ออายุสิบหกปี, ซื้อรถยนต์ได้เองเมื่ออายุยี่สิบปี, มีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทเมื่ออายุยี่สิบแปดปี, จากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง อย่างนี้เป็นต้น

.

เมื่อคุณรู้ตัวเองว่า, คุณเองก็เคยทำอะไรสำเร็จมาแล้ว, คุณก็เอาความสำเร็จนั่นแหล่ะ มาแทนที่ความไม่มั่นใจ, จนกลายเป็นความเชื่อมั่นในตัวเองว่า, คุณก็สามารถทำได้เช่นกัน

.

เคล็ดลับข้อที่สาม, ศึกษา,ค้นคว้า,ซึมซับ,ฝังหัวตัวคุณเองด้วยศาสตร์แห่งความสำเร็จเท่านั้น, ศึกษาประวัติคนที่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่, เช่น, โธมัส อัลวา เอดิสัน , ที่นิยามความล้มเหลวใหม่ว่า, ความล้มเหลวไม่มีอยู่จริง, มีแต่วิธีการที่ไม่สำเร็จเท่านั้น, คุณก็แค่เปลี่ยนวิธีการใหม่จนกว่าจะสำเร็จ, แค่นั้นเอง

.

เมื่อพูดถึงศาสตร์แห่งความสำเร็จข้อที่สามนี้, ผมอยากให้คุณ เลิกเสพข่าวแห่งความล้มเหลวทุกอย่าง, เลิกเสพข่าวอาชญากรรมทุกชนิด, เลิกเสพข่าวลบๆทุกๆอย่าง, แล้ว เปลี่ยนไปเสพข่าวสารเกี่ยวกับความสำเร็จเท่านั้น, ศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับความมั่งคั่งร่ำรวยเท่านั้น, ศึกษาความรู้เกี่ยวกับ คนที่พัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จ โดยที่มีจุดเริ่มต้นจากที่ไม่มีอะไรเหมือนกับคุณ, หรือมีจุดเริ่มต้นคล้ายๆกับคุณ, แต่เขาก็ยังสามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้, เมื่อคุณมีแรงบันดาลใจ คุณก็จะสามารถสำเร็จด้วยตัวคุณเองได้เช่นกัน

.

เมื่อคุณใช้ชีวิตผ่านสามเคล็ดลับดังกล่าว, คุณจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนสำเร็จได้, ภายในไม่เกิดสามสิบวันอย่างแน่นอน

.

ก็อีกเช่นเคยครับ, ที่ผมก็มีการบ้านให้คุณต้องทำส่งผม, คือ, การเขียนบรรยายเกี่ยวกับสามเคล็ดลับที่คุณเพิ่งเรียนรู้ไปว่า, เคล็ดลับข้อหนึ่ง คุณจะทำอะไรบ้าง, มีรายละเอียดอย่างไร?, เคล็ดลับข้อสอง คุณจะทำอะไรบ้าง, มีรายละเอียดอย่างไร, และเคล็ดลับข้อสาม คุณจะทำอะไรบ้าง, มีรายละเอียดอย่างไร?

.

ประโยชน์ของการทำการบ้านในหัวข้อนี้คือ, คุณจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของคุณ, ให้ออกมาสร้างผลลัพธ์อย่างยิ่งใหญ่, จนถึงขนาดที่ว่า, ความล้มเหลวไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคุณ, การทำไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวกับคุณอีกต่อไป, สิ่งที่เกี่ยวข้องกับคุณคือ, คุณสามารถทำได้ทุกอย่าง, คุณสามารถบรรลุความสำเร็จได้ทุกอย่างที่คุณจะทำ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป, เพราะคุณได้แทนที่ความกลัวหรือความกังวล, ด้วยการหาหลักฐานความสำเร็จ, การลิสต์รายการความสำเร็จของตัวคุณเอง, และการศึกษาค้นคว้าสิ่งที่คนสำเร็จเขาทำกันจนสำเร็จมาแล้วอย่างมากมาย นั่นเองครับ

.

วางทุกอย่างลง, แล้วทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลยครับ, จงอย่าเลื่อนสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ตอนนี้ทันที, เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้ครับ

.

ตั้งใจทำการบ้านประจำหัวข้อนี้,​ ส่งผมตอนนี้เลยครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด7 มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อการบรรลุเป้าหมาย

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่เจ็ด, เศรษฐีมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อการบรรลุเป้าหมาย,​ การมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่า

.

เมื่อพูดถึงความศรัทธาอย่างแรงกล้า, ผู้คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า, ความเชื่อกับความศรัทธาเป็นสิ่งเดียวกัน

.

จริงๆแล้ว,​ ความเชื่อ กับ ความศรัทธา อาจจะคล้ายๆกัน, แต่มีมุมที่แตกต่างกันอยู่นะครับ, ตรงที่ความเชื่อ จะอยู่ในระดับจิตสำนึก, ในขณะที่ความศรัทธานั้น จะดำดิ่งลงไปถึงระดับจิตใต้สำนึกกันเลยทีเดียว

.

เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้, ผมต้องอธิบายความแตกต่างระหว่าง, จิตสำนึก กับ จิตใต้สำนึก, ให้คุณได้เข้าใจความหมายที่ถูกต้องกันซะก่อนครับ

.

จิตสำนึก, คือการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทาง, ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, และจิตใจ, ในปัจจุบัน ที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ

.

ซึ่งจิตสำนึก, เป็นส่วนที่กำหนดความเชื่อของคนทั่วไป, ที่ให้ความสำคัญกับประสาทสัมผัสทั้งหกข้อดังกล่าว, คนทั่วไปส่วนใหญ่ มากกว่าแปดสิบเปอเซ็น, จะเชื่อสิ่งที่ตามองเห็น, หูได้ยินเสียง, จมูกได้ดมกลิ่น, ลิ้นได้รับรส, กายได้สัมผัส, และจิตใจเกิดความรู้สึกในสถานการณ์ที่ปรากฏในปัจจุบัน, ว่าสิ่งที่ปรากฏนั้นเป็นความจริงสำหรับเขา,

.

ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้ามองผ่านจิตสำนึก, มันก็เป็นความจริงที่เกิดขึ้นจริงๆกับเขานะตอนนั้น, ในขณะที่คนที่มองผ่านจิตใต้สำนึก, จะมองอย่างลึกซึ้งว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ , เป็นเพียงผลลัพธ์จากการทำบางอย่างในอดีต, จึงส่งผลมาสู่ปัจจุบัน นั่นเองครับ

.

จิตใต้สำนึก, คือการรับรู้ผ่านจิตสัมผัสในระดับ จิตวิญญาณ, ซึ่งอยู่ลึกกว่าประสาทสัมผัสทาง, ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, และจิตใจในปัจจุบัน, หรือเป็นการรับรู้ผ่านการจินตนาการถึงความจริงที่ลึกซึ้ง, ซึ่งซ่อนอยู่ในสภาพที่ปรากฎให้เห็นผ่านประสาทสัมผัส ระดับจิตสำนึก นั่นเองครับ

.

มีถ้อยคำมากมายที่มักนำมาอธิบายเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกได้ง่ายๆ, เช่นคำว่า, วิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมาย

.

ถ้อยคำเหล่านี้, ล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้คน เข้าใจเกี่ยวกับ จิตใต้สำนึกได้ง่ายขึ้น, ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า, วิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมายนั้น,​ มันยังไม่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน นั่นเองครับ, และการจะให้ถ้อยคำเหล่านี้กลายเป็นความจริงปรากฏขึ้น, ผ่านประสาทสัมผัสระดับจิตสำนึกได้นั้น, จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขับเคลื่อนด้วย พลังแห่งความศรัทธาอย่างแรงกล้า นั่นเองครับ

.

นั่นหมายความว่า, การจะบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้นั้น, ใช้เพียงแค่พลังของความเชื่อในระดับจิตสำนึกไม่ได้, ต้องใช้พลังของความศรัทธาในระดับจิตใต้สำนึกเพื่อขับเคลื่อนไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่นั้นได้

.

ย้ำอีกครั้งว่า, วิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมายนั้น, มันยังไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน, จึงใช้ประสาทสัมผัสระดับจิตสำนึกไปวัดผล หรือตรวจสอบไม่ได้, จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยพลังแห่งความศรัทธาในระดับจิตใต้สำนึกขับเคลื่อน, หรือผลักดัน ให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม

.

ดังนั้น, การมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าในหนึ่งปีนั้น, มันเป็น วิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมาย, ที่คุณจำเป็นจะต้องใช้พลังของความศรัทธาอย่างแรงกล้า, ในระดับจิตใต้สำนึกเพื่อสร้างสรรค์ผลลัพธ์ขึ้นมา นั่นเองครับ

.

ซึ่งถ้าตอนนี้ คุณยังไม่ค่อยเข้าใจ, คุณก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล, เพราะคุณมีผมเป็นผู้นำทาง, เป็นโค้ช, ครู, หรือ เป็นเมนทอร์, ที่จะช่วยคุณให้ก้าวข้ามทุกๆอุปสรรค, ที่อาจจะมาขัดขวางไม่ให้คุณบรรลุเป้าหมาย, จนคุณสามารถสร้างผลลัพธ์คือ, มีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่าภายในหนึ่งปี นั่นเองครับ

.

ถึงแม้ตอนนี้คุณอาจจะยังเข้าไม่ถึงคำว่า, พลังของความศรัทธาอย่างแรงกล้า, หรือไม่เข้าใจพลังของจิตใต้สำนึก ก็ไม่เป็นไรครับ, สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่, ทำตามทุกๆอย่างที่ผมจะพาจับมือทำ แค่นั้นเอง

.

มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้คุณพูดย้ำกับตัวเองทุกๆวันด้วยประโยคที่ว่า, (ฉันเกิดมาเพื่อที่จะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, มีเงินล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน หรือมากกว่า, ด้วยการมอบประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้คน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้, และช่วยให้พวกเขามั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกันกับฉัน)

.

ประโยคนี้ทรงพลังมากๆในการสร้างผลลัพธ์อย่างยิ่งใหญ่, ซึ่งผมอยากให้คุณ พูดกับตัวเองซ้ำๆทุกที่ทุกเวลาที่นึกได้

.

พูดตามผมอีกครั้งนะครับ, ด้วยประโยคที่ว่า, (ฉันเกิดมาเพื่อที่จะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, มีเงินล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน หรือมากกว่า, ด้วยการมอบประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้, และช่วยให้พวกเขามั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกันกับฉัน)

.

นี่คือตัวอย่างของการ, ใช้พลังของความศรัทธาอย่างแรงกล้าขับเคลื่อนไปสู่การสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ นั่นเองครับ, ซึ่งคุณอาจจะไม่ต้องสนใจว่าทำไมเพียงแค่, การพูดซ้ำๆกับตัวคุณเอง มันถึงได้ผล, สิ่งที่คุณควรสนใจคือ พูดกับตัวเองซ้ำๆว่า, (ฉันเกิดมาเพื่อที่จะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, มีเงินล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน หรือมากกว่า, ด้วยการมอบประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้, และช่วยให้พวกเขามั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกันกับฉัน), ทำแค่นี้จริงๆครับ

.

ก็อีกเช่นเคยครับ, ที่คุณจะต้องทำการบ้านท้ายบทเรียนส่งผม, ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่การเขียนครับ, แต่เป็นการ บันทึกเสียงของคุณด้วยประโยคที่ทรงพลังที่ว่า, (ฉันเกิดมาเพื่อที่จะมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, มีเงินล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน หรือมากกว่า, ด้วยการมอบประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้, และช่วยให้พวกเขามั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกันกับฉัน)

.

บันทึกเสียงด้วยประโยคที่ทรงพลังนี้สามรอบ ในคลิปเดียว, ซึ่งผมแนะนำให้ใช้ห้องเงียบๆ, ที่ไม่มีเสียงอื่นมาแทรกหรือรบกวนคำพูดที่ทรงพลังนี้ด้วยนะครับ

.

ประโยชน์ของการบ้านข้อนี้, มันคือการฝังพลังของความศรัทธาอย่างแรงกล้าลงไปในจิตใต้สำนึกของตัวคุณเอง,​ ซึ่งในบทเรียนถัดไป ผมจะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับ, พลังของจิตใต้สำนึก อีกที

.

วางทุกอย่างลง, แล้วทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลยครับ, จงอย่าเลื่อนสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ตอนนี้ทันที, เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้ครับ

.

ตั้งใจทำการบ้านประจำหัวข้อนี้,​ ส่งผมตอนนี้เลยครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” background_color=”#f2f2f2″ custom_padding=”15px|15px|15px|15px|false|false” animation_style=”zoom” global_colors_info=”{}”]

แนวคิด8 ใช้พลังของจิตใต้สำนึกเพื่อเป็นแรงผลักดันไปสู่เป้าหมาย

แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่แปด, เศรษฐีใช้พลังของจิตใต้สำนึก เพื่อทะยานไปสู่เป้าหมาย แบบก้าวกระโดด

.

ในร่างกาย,จิตใจ,และจิตวิญญาณของคนเรานั้น, มีสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวทุกๆคน, แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีในการ นำมันออกมาใช้ เพื่อทะยานไปสู่เป้าหมาย, และสิ่งๆนั้นก็คือ ดีเอ็นเอแห่งความสำเร็จ, ที่มีขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวคุณ นั่นเองครับ

.

ในแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่แปดนี้, มีความทรงพลังมากๆต่อระดับความสำเร็จของคุณ, ว่าจะมากหรือน้อย, หรือจะรวดเร็ว และรุนแรงขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับ, การเข้าถึงขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณเอง

.

จะว่าไปแล้ว เนื้อหาในตอนที่หนึ่งนี้ ตั้งแต่แนวคิดหลัก, ข้อที่หนึ่ง ถึงข้อที่เจ็ด ซึ่งคุณได้เรียนรู้มาแล้วนั้น, จริงๆแล้ว แนวคิดหลักของเศรษฐีทั้งหมดนั้น, ถูกขับเคลื่อนภายใต้ขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเขาทุกๆคน

.

ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่หนึ่ง, เศรษฐีเขียนและควบคุมชะตาชีวิต ของตัวเขาเอง, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สอง,เศรษฐีเงินล้าน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริง ที่จะมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน, เงินพันล้าน, หรือมากกว่า, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สาม, เศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยทุกคน, ล้วนจำเป็นต้องมีผู้นำทาง, โค้ช, ครู หรือ เมนทอร์, ที่จะนำพาพวกเขาไปบรรลุเป้าหมาย, และก้าวข้ามทุกๆปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่สี่,เศรษฐี, มีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่ห้า, เศรษฐีมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆมิติ, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่หก, เศรษฐีมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาสามารถมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่าได้อย่างแน่นอน, แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านข้อที่เจ็ด, เศรษฐีมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อการบรรลุเป้าหมาย,​ การมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่า

.

ทั้งเจ็ดแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้าน ล้วนแล้วแต่ถูกขับเคลื่อน ภายใต้ขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด, ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวเขาเอง แทบทั้งสิ้น, ซึ่งถ้าเป็นตามนั้น คุณเห็นพลังของจิตใต้สำนึกหรือยังว่า, มันทรงพลังมากแค่ไหนต่อการสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ตามที่หัวใจของเศรษฐีเงินล้าน ปราดถะหนา

.

ถ้าสถานการณ์นะตอนนี้ คุณยังไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน, หรือยังไม่มีเงินเก็บหนึ่งล้านบาทหรือมากกว่า ทั้งทั้ง ที่ ก็ทำงานหาเงินมาหลายปีแล้ว, ให้คุณเข้าใจไว้เลยว่า, คุณอาจจะใช้แค่จิตสำนึกในการทำงานตามประสาทสัมผัสทางตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,และจิตใจ ตามสถานการณ์นะตอนนั้น

.

แต่คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ, เพราะอดีตของคุณได้ผ่านไปแล้ว, ตัวตนคนเก่าของคุณ คุณก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว, แต่สิ่งที่คุณทำได้แน่แน่ ก็คือ, จากนี้ไป คุณจะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายด้วยการ ทะยานไปแบบก้าวกระโดด, โดยใช้ขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด ที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวคุณเอง, ซึ่งมันก็คือ การนำเอาแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านทั้งแปดข้อในตอนที่หนึ่งนี้, มาปรับใช้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

.

ถ้าจะพูดตามหลักวิชา ควอนตัมฟิสิกส์, ก็อาจจะเรียกกว่า เป็นการวาร์ป หรือ การจั๊มจากตัวตนเก่า ไปสู่ตัวตนใหม่ของคุณ, ซึ่งเป็นเวอชั่น ที่ดีกว่าตัวตนเก่าของคุณหลายเท่า, และประสบความสำเร็จมากกว่าตัวตนเก่าของคุณหลายเท่าตัวกันเลยทีเดียว

.

ในแนวคิดหลักข้อที่เจ็ด ผมเคยเกริ่นเรื่องจิตสำนึก และจิตใต้สำนึกมาบ้างแล้ว, ซึ่งถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ จิตสำนึก มันก็คือสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ, ในขณะที่จิตใต้สำนึก มันก็คือความทรงจำเก่าจากอดีตของคุณตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงอายุปัจจุบัน, และมันคือการวาร์ป หรือ การจั๊มจากตัวตนเก่า ไปสู่ตัวตนใหม่ในอนาคต, ผ่านการมีวิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นการพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น, หรือเป็นสิ่งที่อยู่ในอนาคต ที่คุณจะวาร์ป หรือ จั๊มไป

.

หรือสรุปสั้นๆเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกได้ว่า มันเป็นความทรงจำฝ่ายอดีตที่มันฝังหัวคุณอยู่, และเป้าหมายในอนาคตที่คุณต้องการที่จะบรรลุ นั่นเองครับ

.

คนส่วนใหญ่มากกว่าแปดสิบเปอเซ็นทั่วโลก, ใช้ชีวิตผ่านจิตสำนึกเท่านั้น, ซึ่งก็คือ การจมปลักอยู่กับอดีต และความกลัวหรือกังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ, พวกเขาจึงปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามยะถากำ ด้วยการ, ตื่นเช้า, ออกไปทำงาน, พักผ่อน, เข้านอน, แล้วก็วนกลับมาที่,ตื่นเช้า, ออกไปทำงาน, พักผ่อน, เข้านอน, แล้วก็วนกลับมาที่เดิมซ้ำซ้ำ,ซ้ำซ้ำ,ซ้ำซ้ำ, เหมือนชีวิตเกิดมาเพื่อรอวันตายไปจากโลกใบนี้เท่านั้น

.

ในขณะที่เศรษฐีเงินล้านผู้มั่งคั่งร่ำรวยด้วยสมองและสองมือของพวกเขานั้น, ใช้ชีวิตในแต่ละวันผ่านขุมพลังอันไร้ขีดจำกัดที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก, พวกเขามีมีวิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมาย ที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่, สร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์และทรงคุณค่าให้กับผู้คน, ผ่านสินค้าหรือบริการที่ดีเลิศ, เพื่อช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกับพวกเขา

.

นี่เอง, ที่เป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวันผ่านขุมพลังอันไร้ขีดจำกัดที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก,เพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จดั่งที่ใจปราดถะหนา,มั่งคั่งร่ำรวยอย่างล้นเหลือด้วยการช่วยให้ผู้คน,มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น,และมั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกับพวกเขา

.

มีความลับอีกหนึ่งอย่างที่คุณจะต้องรู้ เพราะคุณคู่ควรที่จะรู้ คือ, ความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นเศรษฐีเงินล้าน,สิบล้าน,ร้อยล้าน,พันล้านหรือมากกว่านั้น, จะต้องเกิดขึ้นในระดับจิตใต้สำนึกก่อนเท่านั้น ถึงจะปรากฏออกมาเป็นความจริงทางกายภาพได้

.

คำเตือน!, ถ้าภายในจิตใต้สำนึกของคุณยังไม่มั่งคั่งร่ำรวย, ในความเป็นจริงภายนอกทางกายภาพของคุณ, ก็จะไม่มีวันมั่งคั่งร่ำรวยได้เลย, เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเริ่มต้นที่, การมีความมั่งคั่งร่ำรวยในระดับจิตใต้สำนึกของตัวคุณเองให้ได้ซะก่อน

.

ซึ่งมีกุญแจที่สำคัญอยู่แปดข้อ, และมันก็คือ, แปดแนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านที่คุณกำลังเรียนรู้อยู่ตอนนี้นั่นเองครับ

.

ผมจะสรุปวิธีสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยในระดับจิตใต้สำนึก,ซึ่งจากนี้ไปคุณจะต้องฝึกฝนอย่างจริงจังด้วยการมีแนวคิดหลักแปดข้อเหมือนเศรษฐีเงินล้านดังนี้,

.

ข้อที่หนึ่ง, เศรษฐีเขียนและควบคุมชะตาชีวิต ของตัวเขาเอง,

ข้อที่สอง, เศรษฐีเงินล้าน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริง ที่จะมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน, เงินพันล้าน, หรือมากกว่า,

ข้อที่สาม, เศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยทุกคน, ล้วนจำเป็นต้องมีผู้นำทาง, โค้ช, ครู หรือ เมนทอร์, ที่จะนำพาพวกเขาไปบรรลุเป้าหมาย, และก้าวข้ามทุกๆปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ,

ข้อที่สี่, เศรษฐี มีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย,

ข้อที่ห้า, เศรษฐีมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆมิติ,

ข้อที่หก, เศรษฐีมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาสามารถมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่าได้อย่างแน่นอน,

ข้อที่เจ็ด, เศรษฐีมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อการบรรลุเป้าหมาย,​ การมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่า,

ข้อที่แปด, เศรษฐีใช้พลังของจิตใต้สำนึก เพื่อทะยานไปสู่เป้าหมาย แบบก้าวกระโดด

.

การใช้ชีวิตของคุณต่อจากนี้ไป, คุณจะต้องดำเนินชีวิตภายใต้ ดีเอนเอแห่งความสำเร็จเท่านั้น , ซึ่งมีขุมพลังอันไร้ขีดจำกัดที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก, ด้วยการใช้แนวคิดหลักของเศรษฐีเงินล้านทั้งแปดข้อนี้ในการขับเคลื่อน,ตรวจสอบ,ปรับปรุง,แก้ไข,และพัฒนาตัวเองให้มั่งคั่งร่ำรวยในระดับจิตใต้สำนึกให้ได้ซะก่อน, แล้วความมั่งคั่งร่ำรวยที่แท้จริงก็จะปรากฎออกมาเป็นรูปธรรมทางกายภาพ, รับรู้, สัมผัสได้จริงผ่านทางประสาทสัมผัสทางตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,และรับรู้ความรู้สึกทางจิตใจ

.

คุณจะต้องใช้พลังของจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อนี้, ไปตรวจสอบตัวเองตลอดเวลา, ว่าเป็นไปตามแปดข้อนี้, หรือกำลังขัดแย้งกับแปดข้อนี้

.

ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นไปตามจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย,คุณก็ลุยต่อ หรือลงมือทำ อย่างเต็มที่

.

แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่เป็นไปตามจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อนี้, จงสั่งการตัวเองให้หยุดทำสิ่งนั้นทันที, เพราะมันขัดแย้ง และไม่เป็นไปเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยอย่างแท้จริง, ถ้ายังฝืนทำต่อไป ผมขอเตือนคุณได้เลยว่า, คุณไม่มีวันที่จะมั่งคั่งร่ำรวยได้, จนกว่าคุณจะทำตามจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อนี้เท่านั้น

.

ก็อีกเช่นเคยครับ, ที่คุณต้องทำการบ้านท้ายบทเรียนส่งผม, ซึ่งวันนี้จะพิเศษกว่าทุกวัน, คือ คุณต้องบันทึกเสียงส่งผมสองคลิป, โดยคลิปที่หนึ่ง ให้คุณบรรยายตัวตนเก่าในอดีตของคุณว่า, เป็นไปตามจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อ,หรือขัดแย้งกับจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อ, แบบไหน,อย่างไรบ้าง,บรรยายมาพอคร่าวๆให้เห็นภาพที่ชัดเจนก็พอ

.

และคลิปเสียงที่สอง ให้คุณประกาศวิสัยทัศน์, พันธกิจ, ภารกิจ, เป้าหมาย, ผลลัพธ์สุดท้าย, อุดมการณ์, ทัศนคติ,   การมองเห็นภาพในอนาคต,  การจินตนาการ, ความฝัน, ความคาดหวัง, และอื่นๆอีกมากมาย ว่าคุณ, จะใช้ชีวิตตามจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งแปดข้อ, ถ้าให้ผมแนะนำ, ผมแนะนำให้บันทึกเสียงตามข้อความนี้อย่างครบถ้วน,ไม่ตัดทอนข้อความไหนออก, เพราะเป็นข้อความที่ทรงพลังที่สุดแล้วในการใช้พลังของจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย

.

ฉันสัญญากับจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยของตัวฉันเอง ว่า, จากนี้ไปฉันทำตามแปดข้อนี้,

ข้อหนึ่ง, ฉันเขียนและควบชะตาชีวิตตัวเอง,

ข้อสอง, ฉันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริง ที่จะมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน, เงินพันล้าน, หรือมากกว่า,

ข้อสาม, ฉันมีผู้นำทาง, โค้ช, ครู หรือ เมนทอร์, ที่นำพาฉันไปบรรลุเป้าหมาย, และก้าวข้ามทุกๆปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ,

ข้อสี่, ฉันมีแผนที่ที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมาย,

ข้อห้า,ฉันมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆมิติ,

ข้อหก, ฉันเชื่อมั่นในตัวเองว่าฉันสามารถมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้านหรือมากกว่าได้อย่างแน่นอน,

ข้อเจ็ด, ฉันมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อการบรรลุเป้าหมาย,​ การมีเงินล้าน, เงินสิบล้าน, เงินร้อยล้าน หรือมากกว่า,

ข้อแปด, ฉันใช้พลังของจิตใต้สำนึก เพื่อทะยานไปสู่เป้าหมาย แบบก้าวกระโดด, มั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, ฉันมอบประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้คน,และช่วยให้ผู้คนมั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกับฉัน,

ข้อเก้า, ฉันตรวจสอบตัวเองตลอดเวลาว่า,ฉันทำตามข้อหนึ่งถึงข้อแปดหรือไม่,ถ้าใช่ฉันลุยต่อและทำอย่างเต็มที่,ถ้าไม่ใช่,ฉันจะหยุดและรีบกลับไปทำตามทั้งแปดข้ออย่างเคร่งคัด

ข้อสิบ, ฉันเกิดมาเพื่อเป็นคนมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมีความสุข, มีเงินล้าน, สิบล้าน, ร้อยล้าน,หรือมากกว่า,และฉันทำสำเร็จ,มั่งคั่งร่ำรวยอย่างยั่งยืน,และสุดท้าย,ฉันจะประกาศคำสัญญาทั้งสิบข้อนี้ทุกๆวันทันที,หลังจากตื่นนอนทุกๆเช้า,และก่อนเข้านอนทุกๆคืน,

.

วางทุกอย่างลง, แล้วทำการบ้านส่งผมตอนนี้เลยครับ, จงอย่าเลื่อนสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ตอนนี้ทันที, เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่, รอช้าไม่ได้ครับ

.

ตั้งใจทำการบ้านประจำหัวข้อนี้,​ ส่งผมตอนนี้เลยครับ

[/et_pb_text][et_pb_text _builder_version=”4.20.4″ _module_preset=”default” hover_enabled=”0″ sticky_enabled=”0″]

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]