อยากรวยทำไง(ตอนที่6)

สวัสดีครับทุกท่าน

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซต์ที่จะชี้แนวทางในการเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข www.doandrich.com และ www.coursetorich.com นะครับ

หลังจากที่ไม่ได้เขียนบทความมาเกือบจะเป็นปี มาวันนี้ ด้วยความคิดถึงพี่น้องที่คอยติดตามบทความดีๆของ Mr. Wealthy ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมาเปิดเผยวิธีการเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข ให้กับทุกท่านได้เรียนรู้กัน ซึ่งในตอนนี้ มีชื่อว่า “อยากรวยทำไง?”

ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว ก็เรียนเชิญทุกท่านไปเรียนรู้กันเลย ณ บัดนี้

อยากรวยทำไง?

หลังจากที่ทุกท่านได้เรียนรู้ไปแล้ว ใน ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 และตอนที่ 5 แล้ว เกี่ยวกับ การเป็นคนรวยเงินล้าน

ซึ่งสรุปสั้นๆคือ

1)ท่านต้องมีสิ่งที่จะนำไปแลกเงินล้าน

2)สิ่งที่จะนำไปแลกเงินล้านต้องเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้กับผู้คน

3)สิ่งที่จะนำไปแลกเงินล้านต้องตอบสนอง ความจำเป็น หรือ ความต้องการ

4) ตั้งเป้าหมายด้านการเงินให้ชัดเจนและเขียนมันออกมา

5) เลือกที่จะอยู่ฝั่ง Active Income หรือ ฝั่ง Passtive Income

ดังนั้นในบทนี้ ผมจะพาท่านซูมไปที่ประเด็นที่สำคัญที่สุด ซึ่งต่อจากตอนที่แล้ว ที่เรากล่าวถึง Active Income เท่านั้น วันนี้ จึงเป็นเรื่องของ Passive Income

ในยามของคนอื่นจะเป็นอย่างไร ผมไม่สนใจ แต่ Active กับ Passive Income ในมุมมองของผม คือ

ACTIVE INCOME = คุณ ทำงานเพื่อ เงิน (You work for money. ) แต่
PASSIVE INCOME = เงิน ทำงานเพื่อ คุณ (Money working for you.)

ถูกต้องแล้วครับ Passive Income คือ “เงิน ทำงานเพื่อ คุณ”

แปลแบบนี้แหละ ตรงตัวที่สุด และเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว….

แต่ถ้าจะให้ซูมกันลงไปจริงๆ แล้ว ก็อาจจะหมายความว่า “ระบบ ทำงานปั๊มเงิน เพื่อ เรา” นั่นเอง

ตัวอย่าง Passive Income เช่น

ค่าเช่า หอพัก ตึก ที่ดิน ฯลฯ
ปล่อยเงินกู้ ทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมาย
ค่าลิขสิทธิ์ จากสิ่งที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา หรือ จากการจดลิขสิทธิ์ หรือ เอกสิทธิ์เฉพาะ
Network Marketing รายได้จากการการตลาดแบบเครือข่าย(ขายตรง) หรือ “เครือข่ายผู้บริโภค”

และรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ที่เมื่อเราสร้างระบบขึ้นมาแล้ว ก็ปล่อยให้ระบบนั้น ทำงานปั๊มเงินให้เราแทน….

ทีนี้ เรามาดูข้อดีของ ระบบ Passive Income กันดูบ้าง ว่ามีอะไรบ้าง

สร้างอิสรภาพ — ข้อนี้ชัดเจนมาก เพราะเมื่อวันใดที่เรามีรายได้แบบต่อเนื่อง(ระบบทำงานปั๊มเงินแทนเรา) หรือ Passive Income มากกว่ารายจ่ายในแต่ละวัน เมื่อนั้นเราก็บอกลางานประจำได้เลย เราจะมีเวลามากกว่าคนอื่นทันทีอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน แถมไม่ต้องตอกบัตรเช็คชื่อเข้าทำงานอีกด้วย
เป็นแหล่งรายได้ใหม่ — ชีวิตเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ถึงแม้เราจะมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ แต่ถ้าวันใดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ถูกไล่ออก หรือ ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ถ้าเรามีแหล่งรายได้จาก Passive Income อยู่ ครอบครัวเราก็จะไม่เดือดร้อน
เป็นแหล่งรายได้ที่ต่อเนื่อง — ไม่ว่าคุณจะรักงานประจำที่คุณทำขนาดไหน ซักวันหนึ่งคุณก็คงต้องหยุดทำ อาจเนื่องด้วยสาเหตุทางด้านอายุ และสุขภาพ เงินรายได้จากการทำงานก็จะต้องหดหายไปในที่สุด แต่ถ้าเรามี Passive Income คอยรองรับอยู่ เงินรายได้ตรงนี้จะยังคงไหลเข้าสู่กระเป๋าของคุณอย่างต่อเนื่อง แถมยังตกทอดเป็นมรดกให้คนใกล้ชิดได้อีกต่างหาก (เราไม่สามารถยกตำแหน่งงานในฐานะลูกจ้างให้ลูกหลานเราได้ ถูกต้องไหมครับ)
เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลาน — อย่างที่อธิบายไว้ด้านบน เมื่อเราวางระบบไว้ดีแล้ว แม้ว่าเราจะไม่อยู่ หรือตายไป รายได้ดังกล่าวยังคงอยู่ และส่งต่อให้กับลูกหลานของเราได้ตลอดไป

และข้อดีอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับในบทความในตอน “อยากรวยทำไง?” ที่เรากำลังเรียนรู้กันอยู่นี้ จะพาท่านสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมา ซึ่งผมเรียกมันว่า “เครื่องจักรปั๊มเงินล้านตลอด 24 ชั่วโมง” ซึ่งเป็นระบบที่ประยุกต์เอาแนวคิดของ Passive Income นี้เองไปประยุกต์กันเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน

ซึ่งก็คือ “อินเทอร์เน็ต”(Internet) นั่นเอง

ทุกท่านอย่าลืมติดตามนะครับ

สรุปแล้ว “อยากรวยทำไง?” ในตอนที่ 6 นี้ เป็นการกล่าวถึงรูปแบบรายได้แบบที่ 2 คือ Passive Income ซึ่งเป็นรายได้แบบ “ระบบ ทำงานแลกเงิน แทนเรา” นั่นเอง

ถ้าทุกท่านชื่นชอบบทความนี้ ก็อย่าลืมกดแชร์ หรือ กระแทก Like แรงๆนะครับ

ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ศรัทธาจะนำมาซึ่งความสำเร็จเสมอ

Mr. Wealthy

***********************

ย้อนกลับไปซีรี่ย์ “อยากรวยทำไง?”
(คลิกที่ภาพด้านล่าง)